แนวโน้มเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทย และภาวะการลงทุน ในปี 2561

    คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อปีที่แล้ว(2560) นับเป็นปีที่ดีของการลงทุน โดยเฉพาะสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น ที่ทำให้เหล่าบันดานักลงทุน ทั้งราย เล็ก และรายใหญ่ ต่างได้ผลตอบแทนเป็นบวก หรือแม้แต่ทองคำเองที่โดยปกติแล้วจะวิ่งสวนทางกับหุ้น แต่ก็ได้อานิสงค์จากการที่เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ส่งผลให้ทองคำปรับตัวสูงขึ้น

     จึงเป็นคำถามส่งท้ายปีให้กับเหล่าบันดานักลงทุน ว่า!!!  ผลประกอบการหรือแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ของปี 2561 จะเป็นอย่างไร ทิศทางการลงทุนควรไปทางไหน  เรามาดูบทวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจกันดีกว่าว่าจะเป็นไปนทิศทางใด

     นักเศรษฐศาสตร์หลายสำนักมองว่า เศรษฐกิจโลกจะยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดย IMF ประมาณการว่าปีนี้ (2561) เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว ได้ 3.7 % จากคาดการณ์เดิมที่ 3.6 %  หลักจากหลายประเทศมีการเติมโตดีเกินคาดในปี 2560  ซึ่งสะท้อนถึงภาวะการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจโลกในภาพรวม โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ปละประเทศกำลังพัฒนา ที่คาดว่าจะเติมโตได้ เฉลี่ยน 4.9 % ในปี2561 จาก 4.6 % ในปีที่แล้ว

กลับมาเริ่มที่ฝั่งประเทศหลักๆ อย่างสหรัฐอเมริกา เรื่องอัราเงินเฟ้อน่าจะแตะระดับ 2 % ตามที่คาดไว้ แต่ยังคงต้องจับตามองนโยบายต่างๆที่ทรัมป์จะนำมาใช้บริหารประเทศ โดยเฉพาะมาตราการลดภาษีเพื่อหนุนบรรยากาศการลงทุนซึ่งน่าจะเห็นผลภายในปี 2561

    ทางฝั่งยุโรป ดัชรีตัวเลขเศรษฐกิจมีแนวโน้วแข็งแกร่งขึ้น แต่ปัญหาภายในของแต่บะประเทศยังเป็นตัวฉุดการขยายตัวโดยรวมของภูมิภาค อาทิประเด็นแคว้นกาตาลุญญา ที่ส่งผลกระทบต่อการเติมโตของประเทศสเปน เช่นเดียวกับ Brexit  ที่ยังต้องจับตาผลกระทบที่น่าจะเริ่มชัดเจนกว่าปีที่แล้ว 

    ญี่ปุ่นเศรษฐกิจขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยผลจากการที่นายอาเบะชนะการเลือกตั้งตามคาดเมื่อช่วงเดือน ตุลาคม ที่ผ่านมา หนุนให้เกิดเสถียรภาพทางการเมืองและความต่อเนื่องในการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจ

    จีนประเทศพี่ใหญ่ของเอเชีย แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ก็ถือว่าอยู่ในกรอบที่ทางการจีนตั้งไว้ ที่ 6 - 7 % โดยมุ่งเน้นการเติมโตจากภายในเป็นหลัก แต่ยังคงต้องจับตาหนี้ภาคเอกชนที่ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นประเด็นหลักของแฟนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับล่าสุดที่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงประกาศในเดือน ตุลาคม ที่ผ่านมา

    สุดท้ายกลับมาที่ประเทศไทยกันบ้าง เศรษฐกิจไทยปี 2561 มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากปีที่แล้ว ด้วยแรงหนุนหลักของจากการลงทุนของภาครัฐ ด้านการส่งออกสินค้าที่เติบโตเกินคาด และมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และคาดว่ามูลค่าการส่งออกทั้งปีจะเติมโตได้ถึง 7 % ซึ่งดีที่สุดในรอบ 6 ปี นอกจากนี้ภาคการท่องเที่ยวยังคงมีแนวโน้มที่ดี

สำหรับการลงทุนในปีหน้าจะยังไม่ต่างจากปีนี้มากนัก โดยสภาพคล่องจะยังคงมีสูงจากการที่ประเทศแกนหลักอย่างยุโรป และญี่ปุ่น ยังดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพื่อหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจและส่งผลบวกต่อบริษัทจดทะเบียนและในยุโรปอีกหลายประเทศอาทิ ฝรั่งเศส และ เยอรมันในปีนี้ ก็มีทีท่าว่าความเสี่ยงจะคลี่คลายลงในปีหน้า แต่ความไม่แน่นอนก็ยังคงมีอยู่ โดยล่าสุดฝั่งเยอรมันยังไม่ลงรอยกันในการจัดตั้งรัฐบาลผสม รวมถึงการเลือกตั้งในอิตาลีภายในเดือนพ.ค.ปีหน้า อีกทั้งประเด็นในคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งปัญหาทางการเมืองทั้งในและระหว่างประเทศนี้เอง มักส่งผลต่อความเชื่อมันของนักลงทุนและบรรยากาศการลงทุน

 Cr:kasikornasset